แบกเป้ หิ้วเป๋าไปเรียนรู้ไลฟ์สไตล์ไม่ทำร้ายโลกของชาวสมุย และมาทำความรู้จักกับวิธีการลดขยะที่ง่ายที่สุดในโลกกัน!
ที่เกาะสมุยนั้นมีอะไร ที่ทำให้คุณนั้นต้องอยากไป :)
เนื้อเพลงฮิตที่หลายคนรู้จักกันดี ลอยขึ้นมาในความคิดของหลายคนเมื่อนึกถึงเกาะสมุยของไทยที่ทั่วโลกยอมรับในความสวยงาม ถึงขนาดว่าในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวนานาชาติกว่าสองล้านคนเดินทางข้ามโลกเพื่อมาพักผ่อนที่เกาะเเห่งนี้ ที่เที่ยวในฝันที่อยากมาให้ได้สักครั้งในชีวิต แถมยังติดอันดับที่ 8 ของทะเลที่สวยที่สุดในโลก และเคยครองตำแหน่งสถานที่น่าเที่ยวที่สุดในเอเชียด้วย การันตีความสวยงามที่ไม่ธรรมดาจริงๆ
แต่รู้ไหมว่า...ธรรมชาติของเกาะสมุยเคยถูกทำลายลง เพราะ นอกจากเงินมากมายที่เกาะสมุยได้รับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ขยะมหาศาลคือสิ่งตามมา สะสมตกค้าง จนเป็นภูเขาขยะกว่า 300,000 ตัน ที่รอให้ทุกคนช่วยกันแก้ไข
เรื่องราวเริ่มต้นจากเตาเผาขยะของเกาะสมุยชำรุด ใช้งานไม่ได้มานานกว่า 8 ปี ขยะบนเกาะค่อยๆ สะสมขึ้นเรื่อยๆ จากขยะกองเล็กๆ รวมกันเป็นภูเขาขยะจำนวนมหาศาล สูงเท่าตึกสามชั้น เป็นขยะพลาสติก ร้อยละ 29.36 ขยะเปียก ร้อยละ 27.39 และขยะทั่วไป ร้อยละ 43.29 ที่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชุมชน เมื่อฝนตกน้ำขยะก็ไหลลงแหล่งน้ำ และขยะบางส่วนก็อุดตันท่อระบายน้ำทำให้เกิดน้ำท่วม กระทบทั้งสิ่งแวดล้อม สัตว์น้ำ และภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเกาะสมุยอย่างที่เราคาดไม่ถึง
จากการที่เกาะสมุยมีประชากรประมาณ 65,000 คน ประชากรแฝง 300,000 คน และนักท่องเที่ยวประมาณ 3,000 คนต่อวัน ทำให้ขยะส่วนใหญ่ร้อยละ 70 เกิดจากการท่องเที่ยว ส่วนอีกร้อยละ 30 เป็นมาจากภาคครัวเรือน รวมแล้วสร้างเกิดขยะใหม่กว่า 150 ตันต่อวัน สถานการณ์การกำจัดขยะบนเกาะสมุยจึงแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ขยะเก่า 300,000 ตัน และขยะใหม่ที่เกิดขึ้นวันละ 150 ตัน ทับถมเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นปัญหาใหญ่ที่ชาวสมุยต้องช่วยกันแก้ไขให้เร็วที่สุด
เทศบาลนครสมุยก็เร่งจัดการภูเขาขยะที่ตกค้างบนเกาะ ด้วยการฝังกลบ 4 บ่อ บนเนื้อที่จำนวน 20 ไร่ แต่ก็ไม่เพียงพอกับปริมาณขยะจำนวนมหาศาล จึงต้องขนขยะเก่าจากเกาะออกไปกำจัดที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการจัดการขยะ โดยเทศบาลนครเกาะสมุยต้องใช้งบประมาณถึง 100 ล้านบาทต่อปีในการแก้ไขปัญหาใหญ่นี้
วิกฤตขยะล้นเกาะสมุยทำให้เรารู้ว่า แม้การสร้างขยะจะเป็นเหมือนเรื่องเล็กๆ ที่เราหลายคนไม่สนใจ แต่ก็สามารถเกิดเป็นผลกระทบยิ่งใหญ่ จนกลายเป็นวิกฤตใกล้ตัว ที่ทุกคนต้องช่วยกันแก้ไข ภาครัฐ เอกชน และชาวสมุยจึงต้องช่วยกันเริ่ม ลดขยะตั้งแต่ต้นทาง ด้วยการ ''เปลี่ยน'' พฤติกรรมของตัวเอง
''เริ่ม'' ที่เรา
ทั้งภาครัฐ และเอกชนบนเกาะสมุย ร่วมใจกันรณรงค์ให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวตระหนักถึงปัญหาขยะล้นเกาะ และเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของตัวเอง ทำให้ชาวสมุยเข้าใจถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบจากขยะชิ้นเล็กๆ ที่ทุกคนร่วมกันสร้างมากขึ้น และเริ่มที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค รวมไปถึงเริ่มคัดแยกขยะในครัวเรือนและชุมชน เพื่อเริ่มเปลี่ยนแปลงเกาะสมุยให้กลับมาสวยงามเหมือนเดิม
''ลด'' วันละนิด
การลดปริมาณขยะตั้งแต่ต้นทางเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด ที่เริ่มจากตัวเราเอง โดยที่สมุย ชาวบ้านส่วนใหญ่เริ่มพกถุงผ้าแทนการใช้ถุงพลาสติก พกขวดน้ำ ลดการซื้อน้ำบรรจุขวดพลาสติก หรือเครื่องดื่มที่ต้องใส่ในแก้วกระดาษและพลาสติก ส่งเสริมให้มีการนำขยะกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ให้คุ้มค่าที่สุด
เซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนสมุย ก็ได้ผนึกกำลัง ซีพี ออลล์, เทศบาลนครเกาะสมุย, ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวเกาะสมุย, สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย, สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ฝั่งตะวันออก และมูลนิธิเกาะสีเขียว จับมือกันเป็นภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติกในพื้นที่เกาะสมุย ด้วยโครงการ ''สมุยร่วมใจ ลดใช้ถุงพลาสติก'' ชวนให้ชาวสมุยและนักท่องเที่ยว ลด ละ เลิก ใช้ถุงพลาสติก ต้นเหตุที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกและสร้างพฤติกรรมการบริโภคอย่างยั่งยืนบนเกาะสมุย ผ่านกิจกรรมของพนักงาน ลูกค้า และการให้บริการสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
แปลงเป็น ''รายได้''
นอกจากจะเริ่มคัดแยกขยะ และลดปริมาณขยะตั้งแต่ต้นทางแล้ว ชาวสมุยมีวิธีจัดการกับขยะที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีการจัดตั้งศูนย์คัดแยกขยะรีไซเคิล การผลิตน้ำหมักจากขยะอินทรีย์ การผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากเศษผักและเศษอาหาร ซึ่งได้จากตลาดสดที่อยู่ใกล้ชุมชน เป็นการนำวัสดุเหลือใช้มาใช้ใหม่เพื่อทำให้ชุมชนได้รับประโยชน์สูงสุด ทั้งขยะประเภทเศษอาหาร และ พลาสติก นำขยะเหลือใช้มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้ครัวเรือน เป็นการเพิ่มรายได้และสร้างชุมชนที่ปลอดขยะ (Zero Waste)
เช่น โรงเรียนบ้านดอนธูป อำเภอเกาะสมุย จัดแยกขยะ โดยนำเศษอาหารที่เหลือจากรับประทานอาหารกลางวันมาเทรวมกัน เพื่อนำไปทำเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพ ส่วนขยะจำพวกขวดแก้ว ขวดพลาสติก และกระดาษ จะถูกนำไปทำเป็นขยะรีไซเคิล เพื่อลดปริมาณขยะจากต้นทาง และป้องกันไม่ให้มีขยะสะสมเพิ่มขึ้น
ทุกวันนี้ขยะในแต่ละวันบนเกาะสมุยลดลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าการขยายตัวด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว จะเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดวิกฤตขยะล้นเกาะ แต่ความเข้าใจ ความตั้งใจ ที่จะช่วยกัน ''เปลี่ยน'' พฤติกรรมการลดใช้ถุงพลาสติก ลดการสร้างขยะตั้งแต่ต้นทาง คืนรอยยิ้มให้ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว และที่สำคัญที่สุดคือคืนความสวยงามให้ธรรมชาติของเรา
แม้ว่าภาครัฐยังต้องเร่งหาทางกำจัดขยะตกค้างให้หมดไป แต่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวก็ช่วยกันลดการเกิดขยะใหม่ ช่วยกันเปลี่ยนการจัดการขยะเพื่อให้เราและธรรมชาติมีความสุขอย่างยั่งยืน พิสูจน์ให้รู้ว่า ปัญหาของสิ่งแวดล้อมสามารถแก้ไขได้ เริ่มจากการเปลี่ยนความคิด เริ่มจากเปลี่ยนตัวเราเอง และ ที่สำคัญที่สุด คือเริ่มตั้งแต่วันนี้เลย!