สวัสดิภาพสัตว์...ก้าวสำคัญอาหารปลอดภัย สุขภาพดียั่งยืน

กระแสความตื่นตัวของผู้บริโภคและอุตสาหกรรมผลิตเนื้อสัตว์ทั่วโลก ได้ให้ความสำคัญต่อเรื่องสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) เนื่องจากมีความเชื่อมโยงสู่อาหารปลอดภัย และมีส่วนสนับสนุนให้เกิดความยั่งยืนของหลักการอาหารมั่นคงขององค์การอาหารและเกษตรโลก (FAO) เพื่อหล่อเลี้ยงมนุษยชาติ โดยปราศจากการทรมานสัตว์ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวโยงถึงความปลอดภัยในอาหาร ซึ่งเป็นอีกย่างก้าวของมาตรฐานสากลที่ต้องใส่ใจ

“สวัสดิภาพสัตว์” บางคนอาจเข้าใจเพียงว่าเป็นการจัดการให้สัตว์ที่เลี้ยงมีความสุข มีความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย แต่นัยยะที่แท้จริงแล้ว เป็นความเกี่ยวโยงในการจัดการตั้งแต่การเลี้ยงสัตว์ที่ต้องมีขั้นตอนการดูแลเพื่อให้สัตว์มีความสุข มีสุขภาพพื้นฐานที่ดี แข็งแรง สามารถเติบโตดีตามศักยภาพพันธุกรรมธรรมชาติของเขาเอง ซึ่งมีความสัมพันธ์โดยตรงต่อคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร เมื่อสัตว์ไม่เจ็บป่วย ไม่เป็นโรค เท่ากับเป็นการลดโอกาสของปัญหาเชื้อดื้อยาไปโดยปริยาย ทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารที่ส่งถึงผู้บริโภคมีคุณภาพที่ดีและปลอดภัย


7f6b32c626aeb62d69c3c414a4a65c3f54a4f6690366eac871b4c9c221f69662


ในเรื่องของสุขภาพ สหภาพยุโรป(อียู) นับเป็นภูมิภาคแรกที่ริเริ่มการศึกษาวิจัยในโครงการด้านสุขภาพ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมกัน และอียูก็เป็นประเทศที่ผลักดันมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ให้กลายเป็นหลักเกณฑ์ในระดับนานาชาติ ด้วยมองว่าสัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึก โดยได้หยิบยกหลักอิสรภาพ 5 ประการในการปฏิบัติต่อสัตว์ ประกอบด้วย ความเป็นอิสระจากความหิวกระหาย (Freedom from hunger and thirst) อิสระจากความไม่สบายกาย (Freedom from discomfort) อิสระจากความเจ็บปวดและโรค (Freedom from pain injury and disease) อิสระจากความกลัวและความทุกข์ทรมาน (Freedom from fear and distress) และอิสระในการแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ (Freedom to express normal behavior) มาเป็นข้อเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกตระหนักและใส่ใจในมาตรฐานการเลี้ยงสัตว์ เช่นการเลี้ยงไก่ในอุตสาหกรรม ต้องกำหนดพื้นที่สำหรับไก่ ไม่ให้ไก่อยู่อย่างแออัด และต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สุขสบายมีสุขลักษณะที่ดี เป็นต้น

e764b06491c8ad3360d8291b8b2a621571164ada166538e2f273a606aab758f1 (1)

เมื่อมองกลับมาที่ประเทศไทย ถือว่า มีความตื่นตัวกับเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร มุ่งสู่เป้าหมาย “ครัวของโลก” เป็นเอกชนรายแรกนอกกลุ่มประเทศยุโรปที่ได้รับการรับรองด้านสวัสดิภาพสัตว์ และถือเป็นต้นแบบในด้านนี้ ฟาร์มไก่เนื้อในไทยทั้งหมดดำเนินการเลี้ยงตามหลักสวัสดิภาพสัตว์มาตั้งแต่ปี 2543 ในการดำเนินการภายใต้หลักการที่มุ่งเน้นให้สัตว์ได้รับการเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม มีความเป็นอยู่สุขสบาย ปราศจากความทุกข์ทรมาน ตลอดระยะเวลาการเลี้ยง ด้วยมาตรฐานการผลิตระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพอาหารปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


5593d2c7c80bdfab244adb9d9264604323c331113fa150af0d7ed7896e13060f

น.สพ.พยุงศักดิ์ สมยานนทนากุล



ทั้งนี้ น.สพ.พยุงศักดิ์ สมยานนทนากุล รองกรรมการผู้จัดการ ด้านมาตรฐานการผลิตสัตว์ปีก และผู้เชี่ยวชาญสวัสดิภาพสัตว์ ซีพีเอฟ ระบุว่า ซีพีเอฟ ได้ประกาศนโยบายสวัสดิภาพสัตว์ (CPF Animal Welfare Policy) ครอบคลุมการดำเนินธุรกิจและการปฏิบัติงานของบริษัทและบริษัทย่อย ในธุรกิจการเลี้ยงสุกร สัตว์ปีก และธุรกิจสัตว์น้ำ โดยกำหนดให้ทุกสายธุรกิจทั่วโลก ที่ดำเนินธุรกิจการเลี้ยงสัตว์ การผลิตเนื้อสัตว์ และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสัตว์ รวมถึงคู่ค้า นำไปปฏิบัติด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลให้กระบวนการทั้งห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่การเลี้ยงสัตว์ การผลิตเนื้อสัตว์ และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ตลอดจนการเคลื่อนย้ายสัตว์สู่โรงงานแปรรูป เป็นไปตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ และได้ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพดี ปลอดภัย ถูกหลักโภชนาการ ตามมาตรฐานสากล พร้อมกับพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ระบุรายละเอียดสินค้าตามแนวทางสวัสดิภาพสัตว์สากลอย่างชัดเจน เพื่อส่งมอบอาหารปลอดภัยสู่ผู้บริโภคที่ได้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

อย่างธุรกิจสุกรมีเป้าหมายขยายการเลี้ยงสุกรแม่พันธุ์อุ้มท้องจากแบบยืนซอง คอกขังเดี่ยวเป็นการเลี้ยงแบบคอกขังรวม (Group Pen Gestation) ให้ครอบคลุมกิจการประเทศไทยภายในปี 2568 และกิจการต่างประเทศภายในปี 2571 รวมทั้งการศึกษาพัฒนาการเลี้ยงไก่ไข่ในประเทศไทยไปสู่ระบบการเลี้ยงแบบปล่อยอิสระภายในโรงเรือนหรือ Cage-Free เพื่อให้สุกรและไก่ไข่มีอิสระในการเคลื่อนไหวและแสดงออกพฤติกรรมตามธรรมชาติได้มากขึ้น            

สำหรับบุคลากรด้านสวัสดิภาพสัตว์ ปัจจุบันซีพีเอฟเป็นบริษัทเอกชนรายเดียวของไทยที่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Bristol ประเทศอังกฤษ สร้างผู้เชี่ยวชาญด้านสวัสดิภาพสัตว์ปีก จบหลักสูตรตั้งแต่ปี 2551 อีกทั้งยังได้ร่วมมือกับสถาบัน AW Training UK ที่มีชื่อเสียงด้านฝึกอบรมสวัสดิภาพสัตว์ของอังกฤษ อบรมให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่สวัสดิภาพสัตว์ปีก(Poultry Welfare Officer) มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะขยายขอบเขตจากประเทศไทยให้ครอบคลุมซีพีเอฟทั่วโลกภายในปี 2563 และยังมีการประเมินผลทั้งภายในและหน่วยงานอิสระจากภายนอก ให้เป็นไปตามนโยบายและแนวทางปฏิบัติอย่างเคร่งครัด



784a84b8cc6d56920a23cc7e15571074d5c335e24d7806fd5df0691c94835f93


นับเป็นความสอดคล้องกับแนวโน้มอุตสาหกรรมการผลิตเนื้อสัตว์ในตลาดโลก อย่างในงานสัมมนาวิชาการของบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ ทั้งงาน The 2018 Poultry Innovation Days ที่กรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเชค จัดโดย Boehringer Ingelhiem และงานสัมมนาวิชาการ The 7th Biology Scientific Forum ของบริษัท Ceva Animal Health ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งทั้งสองงานมีผู้แทนซีพีเอฟร่วมบอกเล่าถึงความสำเร็จในการนำสวัสดิภาพสัตว์มาใช้ และได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ในงานยังเน้นนวัตกรรมด้านสุขภาพสัตว์ พันธุกรรมสัตว์ปีก และอาหารปลอดภัย (Food Safety) ด้วย

สิ่งที่ได้ตามมา ไม่เพียงจะช่วยให้ได้เนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ปลอดสาร ปราศจาการทรมานสัตว์ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยังช่วยตอกย้ำในศักยภาพของเนื้อสัตว์ส่งออกของไทยที่มีมาตรฐานทัดเทียมนานาประเทศ นำพาให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน


ขอบคุณที่มาจาก siamrath.co.th/n/35179

สนับสนุนโดย