‘เกรตา ทูนแบร์ก’ ตัวแทนพลังคนรุ่นใหม่ ปลุกกระแสวิกฤตสิ่งแวดล้อมโลก

นาทีนี้หลายคนคงคุ้นชื่อของ เกรต้า ธันเบิร์ก (Greta Thunberg) เด็กหญิงชาวสวีเดนวัย 15 ปี ที่ประกาศกร้าวกล่าวสุนทรพจน์ที่ทำให้คนทั่วโลกฉุกคิด กับหลายประโยคเด็ดที่ทำให้ผู้นำระดับโลกต้องสะเทือน บนเวทีการประชุมแก้ปัญหาโลกร้อน COP24 ครั้งที่ 24 ที่ผ่านมา ปลุกให้คนทั่วโลกตื่นตัวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาวิกฤตของโลก

โดยสรุปสุนทรพจน์ ที่เกรต้า กล่าวไว้ดังนี้ ''ฉันไม่ได้แคร์ว่าฉันจะกลายเป็นคนดัง แต่ฉันกลับสนใจเรื่องผลกระทบสภาพอากาศ สิ่งแวดล้อมบนโลกที่เราอยู่อาศัย ชั้นบรรยากาศของโลกขณะนี้กำลังเป็นเครื่องสังเวยให้กับคนรวย เพื่อใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ในปี 2078 ฉันจะมีอายุครบ 75 ปี ลูกหลานของฉันอาจจะถามถึงพวกคุณว่าทำไมพวกคุณถึงไม่ทำอะไรทั้งๆ ที่ยังมีโอกาส พวกคุณบอกว่ารักและเป็นห่วงเด็กๆ แต่ทำไมพวกคุณถึงได้ขโมยอนาคตของเด็กๆ ไป และที่พวกคุณไม่สนใจแก้วิกฤติเพราะคุณไม่เห็นว่ามันเป็นวิกฤติ ทางออกสำหรับระบบนี้ คือเราอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวของระบบเอง ฉันมาที่นี่เพื่อบอกคุณว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นไม่ว่าคุณจะชอบมันหรือไม่ก็ตาม เพราะพลังที่แท้จริงอยู่ที่ประชาชนทุกคน''

Greta02

นอกจากสุนทรพจน์ที่น่าจดจำ เกรตายังอยู่เบื้องหลังการลุกขึ้นมาประท้วงของเยาวชนในโรงเรียนของหลายประเทศ หรือที่เรียกว่า School Strike for the Climate Movement เพื่อเรียกร้องให้นักการเมืองหันมาสนใจการแก้ปัญหาสภาวะโลกร้อนอย่างจริงจังเสียที โดยเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กนักเรียนเกือบหมื่นคนที่ออสเตรเลีย รวมตัวเป็นม็อบนักเรียน เดินขบวนไปทั่วประเทศ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียรับผิดชอบต่อปัญหาสภาวะโลกร้อนอีกด้วย

Greta-Thunberg-10 (1)


เกรตาเริ่มสนใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจังเมื่อตอนอยู่ ป.3 อายุแค่ 9 ขวบ ซึ่งแรงบันดาลใจไม่ใช่เพราะงานวิจัยของบรรพบุรุษเธอเองแต่เป็นเรื่องการประหยัดพลังงานที่เธอเรียนรู้จากที่โรงเรียน

“ตอนนั้นครูสอนเรื่องการประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ และไม่กินทิ้งกินขว้าง” “หนูเลยถามว่าทำไม คุณครูจึงอธิบายให้ฟังเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ​ หนูก็มานั่งคิดว่ามันแปลกมาก ถ้ามนุษย์สามารถเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศของโลกได้จริงๆ นี่มันเป็นเรื่องใหญ่มาก ทุกคนควรจะต้องสนใจและพูดกันแต่เรื่องนี้แล้ว แต่ปรากฏว่าไม่เห็นมีใครสนใจกันเท่าไหร่เลย”

เธอจึงเริ่มศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เธอมีความสามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นเวลานานๆ ได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งเธออธิบายว่าเป็นลักษณะอย่างหนึ่งของอาการออทิสติกเช่นกัน เวลาของเธอแทบทั้งหมดไปกับการศึกษาทำความเข้าใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจังมาตั้งแต่นั้น เธอหยุดบริโภคเนื้อสัตว์ และแทบไม่ซื้อสิ่งของอะไรใหม่เลยยกเว้นจำเป็นจริงๆ  ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมาเธอหยุดเดินทางด้วยเครื่องบิน ครอบครัวของเธอติดตั้งแผงโซลาเซลล์และหันมาปลูกผักกินเอง

เกรตาเล่าว่าคนที่มีอาการออทิสติกมักจะมองโลกแบบขาวดำ “เราโกหกไม่เป็น เล่นเกมใส่หน้ากากเข้าหากันไม่เป็น จริงๆ แล้วหนูคิดว่าพวกออทิสติกนี่แหละเป็นปกติ คนอื่นๆ สิแปลก โดยเฉพาะในเรื่องวิกฤตด้านความยั่งยืน เพราะในขณะที่เรารู้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นภัยคุกคามที่สำคัญที่สุดของโลก คนส่วนใหญ่ยังคงใช้ชีวิตกันอย่างปกติ หนูไม่เข้าใจจริงๆ ถ้าการแก้ปัญหาสภาวะโลกร้อนคือการหยุดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แล้วทำไมเราไม่ทำ ทำไมเราจึงยังไม่มีกฎหมายควบคุม สำหรับหนูนี่คือเรื่องขาวดำ ไม่ใช่สีเทา เราต้องเปลี่ยนแปลง”​

Greta4

พลังจากคนรุ่นใหม่อย่าง เกรต้า ธันเบิร์ก  เป็นอีกหนึ่งพลังเล็กๆ ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์เพื่อโลก เริ่มจากการตระหนักถึงปัญหา สู่การปลุกให้คนทั่วโลกตระหนักว่า เราทุกคนกำลังร่วมกันเผชิญหน้ากับวิกฤตสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ และจำเป็นต้องช่วยกันแก้ไขตั้งแต่วันนี้เพื่อเปลี่ยนอนาคตที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น ก่อนที่จะสายเกินไป  





ขอบคุณข้อมูล 

https://hellogiggles.com/news/teen-climate-activist-greta-thunberg-viral-speech/

https://www.ecowatch.com/greta-thunberg-climate-strike-2623294546.html

https://thestandard.co/greta-thunberg/

https://thematter.co/brief/news-1538632801/61634

https://youtu.be/VFkQSGyeCWg



สนับสนุนโดย