วัคซีนเข็มที่ 3 จำเป็นต้องฉีดบูสไหม? เลือกยี่ห้ออะไรดี?

หลายคนสงสัย หลังจากฉีดวัคซีนไปแล้ว 2 ครั้ง จำเป็นแค่ไหนที่ต้องฉีดเข็ม 3 เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน มาหาคำตอบกันเลย! 
ประเทศไทยมีประชากรที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็ม มากกว่า 42 ล้านคน และได้รับวัคซีน บูสเตอร์ (booster) หรือบูสเตอร์โดส เข็มที่ 3 มากกว่า 3 ล้านคน ซึ่งวัคซีนบูสเตอร์ มีความจำเป็นในการป้องกันโควิดสายพันธ์ุใหม่ที่ก่อตัวขึ้นและระบาดในวงกว้าง เช่น เดลต้า (Delta) โอมิครอน (Omicron) แพทย์จึงแนะนำให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มไปแล้ว ควรฉีดวัคซีนเข็ม 3 เพื่อกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันสูงขึ้น ด้วยเหตุผลหลักก็คือ ไวรัสโคโรนาที่ก่อโรค COVID-19 มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา ทำให้วัคซีนโควิด 19 รุ่นแรก ๆ ที่วิจัยมาจากสายพันธุ์อื่น มีประสิทธิภาพลดลงในการรับมือเดลตา รวมทั้งสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การฉีดวัคซีนบูสเตอร์ อาจเป็นวัคซีนชนิดเดียวกับวัคซีน 2 เข็มแรก หรือวัคซีนต่างชนิด ทั้งนี้คุณหมออาจพิจารณาจากอายุ และภาวะสุขภาพ ของผู้ที่ได้รับวัคซีน

วัคซีนบูสเตอร์ที่ใช้ในประเทศไทย ฉีดบูสยี่ห้อไหนดี?

วัคซีนบูสเตอร์ที่ใช้ในประเทศไทย มีดังนี้
1. แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) เป็นวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัท แอสตราเซเนกา และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (Oxford University) ประเทศอังกฤษ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปและผู้ที่เป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด แอสตร้าเซนเนก้ามีประสิทธิภาพในการป้องกันและช่วยบรรเทาอาการรุนแรงจากโควิด-19 ประมาณ 63.09% และอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงหลังฉีด ดังนี้

  • หน้ามืด
  • อัตราการการเต้นของหัวใจเปลี่ยนแปลง
  • มีไข้
  • ปวดศีรษะ
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ปวดท้อง
  • หายใจถี่
  • ผื่นขึ้น
  • ริมฝีปาก ใบหน้า ลำคอบวม
2. ไฟเซอร์ (Pfizer) เป็นวัคซีนจากบริษัท ไฟเซอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ทำการทดลองร่วมกับ บริษัท ไบออนเทค (BioNTech) ประเทศเยอรมนี เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปและสตรีตั้งครรภ์ รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหอบหืด โรคปอด โรคตับ ไฟเซอร์มีประสิทธิภาพในการป้องกันและบรรเทาอาการรุนแรงจากการติดโควิด-19 ประมาณ 95% และอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงหลังฉีด ดังนี้
  • รู้สึกปวดกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด
  • ปวดศีรษะ มีไข้
  • ท้องเสีย
  • เหนื่อยล้า
  • คลื่นไส้ อาเจียน
3. โมเดอร์นา (Moderna) เป็นวัคซีนจากบริษัท โมเดอร์นา ประเทศสหรัฐอเมริกา เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ และโรคภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน โมเดอร์นามีประสิทธิภาพในการป้องกันและบรรเทาอาการรุนแรงจากการติดโรคโควิด-19 ประมาณ 90-94.1% และอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงเล็กน้อยหลังฉีด ดังนี้
  • ปวดกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด
  • มีไข้ หนาวสั่น
  • ปวดศีรษะ
  • เมื่อยล้า
  • คลื่นไส้ อาเจียน

หลังฉีดวัคซีน หากมีอาการรุนแรงนอกเหนือจากที่ระบุข้างต้น ควรเข้าพบคุณหมอในทันที ก่อนเกิดอันตรายต่อสุขภาพ

วัคซีนเข็ม บูสเตอร์ ควรฉีดตอนไหน?

การฉีดวัคซีนบูสเตอร์ ในแต่ละบุคคลมีระยะเวลาไม่เท่ากัน เนื่องจากมีปัจจัยของระยะเวลาการฉีด และชนิดของวัคซีนที่ได้รับ 2 เข็มแรกมาเกี่ยวข้อง กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานการเว้นระยะการฉีดวัคซีนที่เหมาะสม ดังนี้

16ac4efe2008d609227db36f099c2904
การฉีดวัคซีนจากบริษัทผู้ผลิตรายเดียวกัน ได้แก่

1. Sinovac - Sinovac หรือ Sinopharm - Sinopharm

ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ได้ด้วย AstraZeneca หรือ Pfizer - Moderna ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไปหลังฉีดเข็ม 2

2. AstraZeneca - AstraZeneca

ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ได้ด้วย Pfizer - Moderna ตั้งแต่ 3 - 6 สัปดาห์ขึ้นไปหลังฉีดเข็ม 2

3. Pfizer - Pfizer หรือ Moderna - Moderna

ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ได้ด้วย Pfizer - Moderna ตั้งแต่ 6 สัปดาห์ขึ้นไปหลังฉีดเข็ม 2

การฉีดวัคซีนสูตรไขว้ ได้แก่

1. Sinovac / Sinopharm - AstraZeneca

ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ได้ด้วย AstraZeneca หรือ Pfizer - Moderna ตั้งแต่ 3 - 6 สัปดาห์ขึ้นไปหลังฉีดเข็ม 2

2. Sinovac / Sinopharm - Pfizer

ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ได้ด้วย Pfizer - Moderna ตั้งแต่ 6 สัปดาห์ขึ้นไปหลังฉีดเข็ม 2

3. AstraZeneca - Pfizer

ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ได้ด้วย Pfizer - Moderna ตั้งแต่ 6 สัปดาห์ขึ้นไปหลังฉีดเข็ม 2

วัคซีนบูสเตอร์ เหมาะกับใครบ้าง?

วัคซีนบูสเตอร์อาจเหมาะกับบุคคลต่อไปนี้

  1. ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
  2. ผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ที่มีภาวะสุขภาพซึ่งเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 สูง เช่น ติดเอชไอวี โรคลูปัส โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ อยู่ในช่วงรักษามะเร็ง ปลูกถ่ายอวัยวะ
  3. เจ้าหน้าที่หน่วยงานสาธารณสุขที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19
  4. ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนตามกำหนดครบ 2 เข็ม
  5. ผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ
  6. ผู้ที่ควรฉีดวัคซีนบูสเตอร์ ตามดุลยพินิจของคุณหมอ
ปัจจุบันนี้มีหน่วยงานรัฐเริ่มให้บริการฉีดวัคซีนเข็ม 3 จากการจัดสรรโดยรัฐ เช่น สถานีกลางบางซื่อ โรงพยาบาลประจำจังหวัด ติดตามข่าวการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในปี 2565 ได้ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข https://ddc.moph.go.th/

ขอบคุณข้อมูลจาก 
กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
สนับสนุนโดย