C.P. Group ร่วมตอบแทนโลก เดินหน้าลดโลกร้อน ตั้งเป้า NET ZERO 2050

“เราทุกคนต่างรู้กันดีว่า โลกได้ให้อะไรกับเรา
แต่เคยถามตัวเองไหมว่า เราได้ให้อะไรกับโลกบ้าง
มันคงถึงเวลาแล้วจริงๆ ที่พวกเราต้องหันกลับมาช่วยดูแลโลกใบนี้
แต่หลายคนอาจสงสัยว่า คนตัวเล็กๆ อย่างเราจะไปช่วยโลกที่กว้างใหญ่ได้อย่างไร ?
งั้นลองมาย่อโลกของเราให้เหลือแค่ 2 เมตรในระยะกางสองแขน แล้วดูแลพื้นที่ของตัวเองให้ดีต่อโลกที่สุด
และเมื่อทุกคนทำด้วยกัน แขนของเราก็จะกางเชื่อมต่อกันและส่งผลให้โลกทั้งใบดีขึ้นได้”

แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก 1-2 องศา อาจจะฟังดูไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่ถ้าบอกว่า การที่โลกร้อนเพียงไม่กี่องศานี้จะทำให้ GDP ของประเทศลดลง 4.9% และหากอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นอีกแตะ 3.2 องศา GDP ของเราจะลดลงถึง 43.6% หลายคนอาจจะเพิ่งเริ่มตื่นตัวขึ้นมา ด้วยความที่ไม่เคยคิดว่า โลกร้อนจะส่งผลมาถึงตัวเราแบบจริงๆ จังๆ หรือ ไม่เคยนึกภาพว่า เมื่อถึงวันที่โลกรวนแล้วชีวิตพวกเราจะรวนตามแค่ไหน 

เรื่องนี้ถือเป็นวิกฤตเร่งด่วนที่อนาคตจะส่งผลกระทบรุนแรงยิ่งกว่าการระบาดของโควิดมากมายหลายเท่าอย่างที่พวกเราคาดไม่ถึง และทางเดียวที่จะชะลอความเสียหายหรือบรรเทาความสูญเสียได้ก็คือ พวกเราทุกคนต้องช่วยกันร่วมมือกันอย่างจริงจัง ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม ก็สามารถร่วมเป็นหนึ่งพลัง เป็นแรงผลักเล็กๆ ที่เมื่อรวมพลังกันแล้วจะทำให้โลกคืนความสมดุลกลับมา ...แต่สิ่งสำคัญคือวันนี้พวกเราตระหนักรึยังว่า นี่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่คิด และไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ ที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองอีกต่อไป

เครือเจริญโภคภัณฑ์เอง เราตระหนักถึงปัญหานี้อย่างจริงจัง และมีความเชื่อว่าเราควรจะต้องตอบแทนโลกใบนี้ที่ได้ให้ชีวิตกับเรา เครือเจริญโภคภัณฑ์และกลุ่มธุรกิจในเครือฯ จึงได้ผนึกกำลังกันดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น...

การรับผิดชอบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และตามข้อตกลงปารีสซึ่งมีเป้าหมายหลักในการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส และมุ่งมั่นพยายามที่จะไม่ให้อุณหภูมิเพิ่มสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เราจึงได้กำหนดเป้าหมายและนโยบายที่จะเป็นองค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) และมุ่งสู่การลดขยะเป็นศูนย์ ภายในปี 2030 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050

การจัดการทรัพยากรตามแนวทาง Circular Economy และการใช้พลังงานสะอาด อาทิ การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในโรงงาน ปัจจุบันฟาร์มสุกรของ CPF ได้ใช้เชื้อเพลิงชีวมวลทั้งหมด ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้ามาชดเชยการใช้ไฟฟ้าปกติได้ถึง 40% รวมถึงการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% เพื่อทดแทนการใช้ไฟฟ้าฝ่ายผลิตในระบบ โดยเฉพาะการนำโซลาร์เซลล์มาติดตั้งในพื้นที่อุตสาหกรรมทั้งหมด

การจัดการของเสีย (W
aste Management) เครือฯ หาทางใช้ประโยชน์จากขยะให้ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะอาหารและของเหลือจากกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งขยะอาหาร และขยะที่ไปสู่การฝังกลบ นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าหมาย 100% ของบรรจุภัณฑ์พลาสติคที่นำมาใช้ จะต้องสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ใช้ซ้ำ หรือย่อยสลายได้ ภายในปี 2030 

การดูแลทรัพยากรน้ำ เราส่งเสริมการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ด้วยการประเมินความเสี่ยงด้านน้ำ การลดการใช้น้ำ รวมถึงการบำบัดน้ำ เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่

การปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อที่ 15 (SDGs) ของ UN ที่ให้ทั่วโลกร่วมมือกันชะลอและยับยั้งการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและปกป้องระบบนิเวศ ซึ่งเครือฯ ก็ได้ดำเนินงานด้วยการแก้ไขปัญหาที่อิงธรรมชาติในโครงการ Nature Based Solution เพื่อชดเชยส่วนที่ไม่สามารถใช้พลังงานหมุนเวียนได้ ซึ่งช่วงแรกเน้นไปที่การส่งเสริมการปลูกป่า โดยวางเป้าหมายปลูกต้นไม้ 20 ล้านต้นทั่วโลก ภายในปี 2025 โดยทำการปลูกป่าไปพร้อมกับการส่งเสริมเกษตรกรรมและภาคการเกษตร โดยพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของตัวเองให้ได้มากที่สุด และส่วนที่เหลือก็มีดูดซับคาร์บอนมากักเก็บไว้อย่างถาวร

สุดท้ายเรื่อง การจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างรับผิดชอบ โดยนำความยั่งยืนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการภายใต้กรอบดำเนินงานการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างรับผิดชอบ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้คู่ค้าธุรกิจปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเครือฯ เพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน และเครือฯ ยังได้พัฒนาเครื่องมือการตรวจประเมินความเสี่ยงด้านความยั่งยืนผ่านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อค้นหาโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจตลอดห่วงโซ่อุปทานและผู้มีส่วนได้เสียได้มากขึ้น

เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้เดินหน้าลดโลกร้อน และสร้างความตระหนักรู้ให้กับทุกคน ผ่านแคมเปญ “ตอบแทนโลก 2 เมตร” ซึ่งได้ชวนให้พนักงานและกลุ่มบริษัทในเครือฯ รวมถึงคนไทยทุกคน ให้ตระหนักถึงปัญหาโลกร้อน ภายใต้แนวคิด การตอบแทนโลกเชื่อมต่อกันได้ โดยมี “เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” นักกีฬาเทควันโดขวัญใจชาวไทยทั้งประเทศ ร่วมเป็นหนึ่งพลังสำคัญในการตอบแทนโลกครั้งนี้


เพราะภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังเกิดขึ้นจริงทั่วโลกอย่างที่เราเห็นกัน และกำลังจะเกิดรุนแรงยิ่งขึ้นหลายเท่าทวีคูณภายในอีกเพียงไม่กี่ปีข้างหน้า หากพวกเรายังเมินเฉยต่อวิกฤตที่เกิดขึ้นกับโลกของเรา ...ถึงเวลาที่พวกเราต้องร่วมมือกัน เพียงดูแลโลกเล็กๆ ของแต่ละคนให้ดี และการกระทำเล็ก ๆ นี้จะเชื่อมโยงส่งผลกระทบให้โลกทั้งใบของเราดีขึ้น

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ชวนคนไทยทุกคนช่วยกันลดคาร์บอนฯ กับแคมเปญ "ตอบแทนโลก 2 เมตร" เพียงกางแขนสองข้างซึ่งเป็นระยะ 2 เมตรรอบตัว และเริ่มดูแลโลกง่าย ๆ ในแบบของคุณ ไม่ว่าจะเป็นรีไซเคิลพลาสติก ลดขยะอาหาร ใช้พลังงานสะอาด หรือ เพิ่มพื้นที่สีเขียว ...เท่านี้ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่จะช่วยโลกของเรา และตอบแทนโลกใบนี้ได้

คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://bit.ly/3vygDZd

#ตอบแทนโลก2เมตร #CPNetZero2050 #ร้อยเรียงความดีซีพีร้อยปี

ขอบคุณข้อมูลจาก
https://globalcompact-th.com/news/detail/985
https://www.cpgroupglobal.com/th/sustainability/

สนับสนุนโดย